รู้ไว้ใช่ว่า !! วิธีดูแลรถตามฤดูกาลต้องทำยังไงดีนะ

โลกเรามีถึง 4 ฤดูกาล แต่โชคดีที่บ้านเราอยู่ในเขตร้อน จึงแบ่งออกเป็นแค่ 3 ฤดู ได้แก่ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว เจ้าของรถจึงควรใส่ใจดูแลสภาพรถให้สอดคล้องกับการใช้งานในแต่ฤดูที่แตกต่างกันไป เพื่อให้รถพร้อมและมีอายุการใช้งานที่ยืนยา

ฤดูร้อน
care-your-car-summer-cover

ด้วยอากาศที่ร้อนจัดของฤดูนี้ เมื่อต้องออกไปจอดรถข้างนอกในที่ที่ไม่มีร่มเงา  จะทำให้รถของเราสะสมความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียได้ในระยะยาว จึงต้องมีการใส่ใจบำรุงรักษารถยนต์ของคุณมากเป็นพิเศษ
แม้ว่าความร้อนจะไม่ได้ส่งผลให้รถเสียแบบฉับพลัน แต่ในระยะยาวอาจทำความเสียหายได้ ดังนี้

– อุปกรณ์ที่ทำจากยางหรือพลาสติกเกิดเสื่อมสภาพได้ง่าย
– เครื่องยนต์ร้อนและทำงานหนักขึ้น เพราะสภาพอากาศส่งผลต่อระบบระบายความร้อน เช่น หม้อน้ำ 
– ฟิล์มรถยนต์อาจแห้งกรอบ หรือหลุดลอกได้
– ระบบแอร์ทำงานหนักขึ้น หากใช้งานติดกันนานๆ อาจพังเร็วขึ้น 
– ยางรถยนต์เกิดการตึงกว่าปกติ ส่งผลต่อแรงเสียดทาน สำหรับผู้ที่ใช้ยางเก่าต้องระวังการระเบิด

วิธีบำรุงรักษา
เมื่อรู้กันแล้วว่าผลกระทบที่มาจากฤดูร้อนมีอะไรบ้าง ทีนี้ก็มาดูวิธีการบำรุงรักษารถยนต์ของคุณในฤดูร้อนกันเลย

1. เมื่อจอดรถกลางแดดนานๆอย่าเพิ่งออกรถทันที เมื่อสตาร์ทรถแล้วให้จอดนิ่งๆก่อน เพื่อให้เครื่องยนต์ระบายความร้อน
2. หากอุณหภูมิห้องโดยสารร้อนเกินไป อย่าเพิ่งเร่งแอร์จนสุดเดี๋ยวแอร์จะทำงานหนักจนพังเร็ว ให้เปิดประตูและใช้ระบบพัดลมธรรมดาเพื่อไล่ความร้อนออกไปก่อน จากนั้นค่อยเร่งแอร์ขึ้น
3. อย่าบรรทุกคนหรือของหนักมากเกินไป เพราะจะเป็นภาระให้กับเครื่องยนต์ที่ทำงานหนักขึ้นอยู่แล้ว
4. ตรวจเช็คหม้อน้ำไม่ให้แห้งก่อนออกเดินทาง
5. เช็คสภาพยางว่าไม่ตึง กรอบ หรือมีรอยแตก
6. ไม่ใช้ผ้าคลุมที่แนบสนิทไปกับตัวรถ เพราะถ้าอากาศร้อนมากๆสีจากตัวรถอาจหลุดไปกับผ้าคลุมได้
7. ไม่เก็บอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการระเบิดไว้ในตัวรถ เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่สำรอง หรือผลิตภัณฑ์บรรจุแก๊สต่างๆ
หากสามารถทำได้ดังนี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อรถของคุณในฤดูร้อนก็ลดลงได้มากแล้ว

ฤดูฝน
Nai1wK3sDD

สำหรับฤดูฝน อาจมีการบำรุงรักษารถยนต์ไม่มากเท่ากับฤดูร้อน แต่จะมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องใส่ใจในส่วนของสีรถ และระบบของเหลวต่างๆนอกจากนี้ หน้าฝนเป็นฤดูที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด เนื่องจาก
– มองทางได้ยากขณะฝนตก กะระยะจากรถคันอื่นได้ยาก
– ถนนลื่น โอกาสเกืดอุบัติเหตุยิ่งมากขึ้น
– เสี่ยงน้ำท่วม เครื่องยนต์เสียหายหนักจนใช้ไม่ได้
 
วิธีบำรุงรักษา
เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้กันดีว่าการขับรถขนาดเข้าหน้าฝนอันตรายแค่ไหน เพราะฉะนั้น วิธีการบำรุงรักษาต่อไปนี้จะมีทั้งการดูแลเพื่อความปลอดภัยในท้องถนน และการบำรุงรักษาสภาพเครื่องของรถยนต์ด้วย
1. ตรวจเช็คระบบของเหลวทั้งหมดหลังจากขับรถตอนฝนตกทั้ง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ หากสีของน้ำมันเหล่านี้อ่อน หรือจางลง แปลว่ามีน้ำฝนไหลเข้าไปปะปน ให้รีบนำไปเปลี่ยนถ่ายของเหลวทันที
2. ตรวจเช็คลูกปืนล้อ เพราะขณะที่คุณขับผ่านแอ่งน้ำขังหรือแช่ไว้ในน้ำนานๆ อาจทำให้จาระบีที่เป็นตัวหล่อลื่นของลูกปืนถูกชะล้างออกไป เสี่ยงทำให้ลูกปืนล้อแตก
3. สังเกตบริเวณโดยรอบบ้านว่าเคยน้ำท่วมมั้ย หากน้ำท่วมสูงถึงห้องเครื่องยนต์ของคุณบอกเลยว่าไม่ดีแน่ แถมประกันอาจไม่คุ้มครองกรณีนี้อีก ถ้ารู้ว่าบ้านของคุณเคยน้ำท่วม ในช่วงนี้ให้นำรถไปจอดที่อื่นก่อนดีที่สุด
4. ระบบไฟทั้งหมดต้องใช้การได้ หากไฟดวงใดดวงหนึ่งไม่ทำงาน มีโอกาสที่จะทำให้รถคันอื่นไม่เห็นแล้วขับเข้ามาชนได้ ยิ่งเป็นหน้าฝนถนนลื่น โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็ยิ่งมาก
5. ยางรถต้องพร้อมใช้ ยางรถของคุณต้องไม่เสื่อมสภาพ มิฉะนั้นการเกาะจะลดลงทำให้ลื่นไถลจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยอาจสังเกตจากอายุการใช้งานของยาง หากเกิน 3 ปีขึ้นไปถือว่าเริ่มเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนได้แล้ว
6. เบรกต้องไม่สึก สังเกตดูว่าผ้าเบรกยังสามารถชะลอความเร็วรถได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิมหรือไม่ มีท้ายรถปัดเป๋ไปมาตอนเบรกบ้างหรือยัง หากพบอาการเหล่านี้ให้รีบนำรถไปตรวจสภาพโดยด่วน
7. ใบปัดน้ำฝนต้องทำงานปกติ ในช่วงที่ฝนตก ทัศนวิสัยสำคัญที่สุด หากใบปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้ คุณอาจมองไม่เห็นทางและเกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการบำรุงรักษารถยนต์ของคุณในช่วงหน้าฝน พร้อมป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไปในตัวด้วย ขณะที่มีฝนตกหนักให้หาจุดจอดแวะพักรถก่อน เอาไว้ฝนซาแล้วค่อยขับต่อ จะเป็นการลดความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุที่ได้ผลที่สุด

ฤดูหนาว
The winter road is reflected in the car's rear-view mirror

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มีการบำรุงรักษารถยนต์ง่ายที่สุด เพราะไม่ปัญหามากเท่ากับฤดูร้อนและฤดูฝน ซึ่งจุดที่คุณต้องดูแลจะเป็นจุดที่มีปัญหาเล็กๆ อย่างเช่น
– การเกิดฝ้าที่กระจก บดบังทัศนวิสัย
– เครื่องยนต์เย็นเกินไป สตาร์ทเครื่องได้ช้า
– อาจมีหมอกปกคลุมระหว่างทาง ทำให้ขับรถได้ลำบาก

วิธีบำรุงรักษา
สำหรับวิธีบำรุงรักษารถยนต์ในช่วงหน้าหนาวนั้น จะคล้ายกับฤดูฝนที่ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของเครื่องยนต์หรือส่วนอื่นๆมากนัก แต่เป็นการดูแลเพื่อความปลอดภัยในการขับรถ โดยสามารถทำได้ดังนี้

1. สคาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 10-15 นาที เมื่ออากาศเย็นจัดก่อนออกรถ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้
2. ไฟตัดหมอกต้องใช้การได้ หากคุณต้องขับไปต่างจังหวัดที่มีหมอกหนา ระบบไฟนี้จะจำเป็นสำหรับคุณมาก
3. เติมน้ำมันให้เต็มถังเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นสะสม
4. ตรวจเช็คระบบไล่ฝ้าให้ดี เพราะในฤดูหนาวฝ้าจะขึ้นกระจกง่ายมาก แม้จะใช้ใบปัดน้ำฝนปัดแล้วฝ้าก็จะกลับมาอย่างรวดเร็วอยู่ดี จึงต้องเช็คระบบนี้ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ฟังก์ชั่นหลายอย่างที่ต้องใช้ในช่วงฤดูหนาวนี้อาจไม่คุ้นเคยกันมากนัก แต่พอถึงคราวที่จำเป็นต้องใช้หากพบว่าเสียหรือใช้การไม่ได้ก็อาจจะลำบากไม่น้อย โดยเฉพาะใครที่ชอบออกไปต่างจังหวัดช่วงหน้าหนาวยิ่งต้องตรวจสอบกันให้ดีๆนะครับ